กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) เป็นปัจจัยเบื้องหลังที่สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว ไม่ว่าในเรื่องอาชีพการงานหรือการทำธุรกิจของคุณเอง
จากการวิจัยหลายทศวรรษ Carol S. Dweck นักจิตวิทยาชื่อดังระดับโลกของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างกรอบความคิดแบบเติบโตหรือ Growth Mindset และกรอบความคิดแบบยึดติดหรือ Fixed Mindset
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จในเกือบทุกด้านของชีวิตจะได้รับอิทธิพลจากวิธีคิดของเราว่าเป็นแบบไหน การมีวิธีคิดแบบเติบโตสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวได้ และต่อไปนี้คือ 9 เหตุผลทำไม Growth Mindset เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ
1.ไม่หวาดหวั่นแม้ล้มเหลว กล้าท้าทายตัวเองในการปรับปรุง
ด้วยกรอบความคิดแบบเติบโต คุณจะมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้มากกว่าผลลัพธ์ โอกาสที่คุณจะมุ่งมั่นแบบไม่ล้มเลิกนั้นสูงกว่าเมื่อคุณมีกรอบความคิดแบบยึดติด (fixed mindset)
นั่นหมายความว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้นจากการพยายามปรับปรุงการทำงาน เติบโต เรียนรู้ในสิ่งที่คุณฝึกฝน คุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้นหากคุณมีกรอบความคิดแบบเติบโต
2.มองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเติบโต ไม่ล้มเลิกจนกว่าจะสำเร็จ
เมื่อคนที่มีวิธีคิดแบบเติบโตล้มเหลวพวกเขาจะไม่นำมาเป็นเรื่องใหญ่ใส่ใจจนเสียแผนการ เขาจะเรียนรู้จากความผิดพลาดและมีมุมมองแง่บวกที่กลับมาแข็งแกร่งเพื่อสู้ต่อไป
จะไม่ยอมจำนนต่อความล้มเหลวอย่างเด็ดขาด ความเพียรพยายามเรียนรู้ปรับปรุงเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย
ด้วยกรอบความคิดแบบเติบโตโอกาสที่คุณจะล้มเลิกความพยายามในการบรรลุเป้าหมายนั้นน้อยกว่าถ้าคุณมีกรอบความคิดแบบยึดติด
ดังนั้นคุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้นเพราะไม่ยอมแพ้ต่อจนกว่าบรรลุเป้าหมาย
3.มีความยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
ด้วยกรอบความคิดแบบเติบโต คุณมีความยืดหยุ่นและคุณพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต ดังนั้นคนที่ปรับตัวได้มากที่สุดจะประสบความสำเร็จมากที่สุด
4.มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา
เมื่อคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุง คุณจะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
คุณจะสำรวจวิธีต่างๆมากมายในการปรับปรุงทั้งตัวเองและด้านอื่นๆในชีวิต เป็นการกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ๆ ปัจจัยเหล่านี้จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในตัวคุณ
5.เปิดกว้างในการเรียนรู้ปรับปรุงตัวเอง
คุณจะเปิดกว้างให้กับตัวเองและคนอื่นๆ พร้อมรับคำติชม เพราะรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับในการเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง
ด้วยเหตุนี้คุณจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น ได้รับทักษะใหม่ๆจากประสบการณ์ทำงาน ทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายและความฝันของคุณ
6.มีพลังใจที่ดี
ด้วยกรอบความคิดแบบเติบโต คุณจะมีพลังใจที่ดี ไม่หงุดหงิด หดหู่ เมื่อพบอุปสรรคหรือความล้มเหลว แต่ยังมีทัศนคติที่ดีที่จะสู้ต่อไป เป็นแรงผลักดันไปสู่ความสำเร็จ
7.มีความเพียร
การปลูกต้นไม้ไม่สามารถโตเพียงชั่วข้ามคืน ความสำเร็จก็เช่นกัน
คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโตจะมีพลังใจที่จะผลักดันตนเองเพื่อก้าวผ่านอุปสรรค มีความเพียรที่จะเอาชนะความยากลำบาก และความท้าทายที่อยู่เบื้องหน้าเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
8.มีความมั่นใจ
เมื่อคุณมีความคิดแบบเติบโตคุณจะไม่กลัวความล้มเหลว
คุณรู้ว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบของโลก ด้วยทัศนคติว่าความสามารถของคุณในด้านใดด้านหนึ่งกำลังดีขึ้น และตระหนักดีว่าการเรียนรู้จากความล้มเหลวจะทำให้เข้าใกล้ไปสู่ความสำเร็จ
9.เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต
คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโต มักแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากขึ้น อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่ง
มีผลวิจัยแสดงให้เห็นว่าในขณะที่คนส่วนใหญ่มักอ่านหนังสือเพื่อความบันเทิง แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆมักเป็นผู้อ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง
ในความเป็นจริง 85% ของคนที่ประสบความสำเร็จอ่านหนังสือเพื่อการพัฒนาตนเองสองเล่มขึ้นไปต่อเดือน ทั้งนี้ผู้นำในองค์กรหรือผู้บริหารเห็นว่าการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learner) เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ